บรรทุกของเกินขนาด อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
อัพเดทล่าสุด: 19 เม.ย. 2025
387 ผู้เข้าชม
บรรทุกของเกินขนาด อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
1. บดบังวิสัยทัศน์ สิ่งของล้นออกทุกทิศทางจนมองไม่เห็นรถที่ตามมาด้านหลัง มองไม่เห็นรถด้านข้าง อันตรายต่อตนเองและเพื่อนร่วมทาง
2. เสี่ยงเกิดยางระเบิด หรือรถเสียหาย เนื่องจากเป็นการบรรทุกเกินกว่าสมรรถนะของยางและระบบช่วงล่าง
3. อายุการใช้งานของยางลดลงอย่างรวดเร็ว ยางสึกหรอเร็ว เพราะการบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราส่งผลให้การเคลื่อนไหวของหน้ายางมีมากขึ้น และยังทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนระหว่างหน้ายางกับโครงยางลดลง
4. รถเสียสมดุล เสียหลักง่าย โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น เพราะรถเสียสมดุลการถ่ายน้ำหนัก ทำให้ตอนหน้ารถเบา จนล้อหน้าขาดแรงยึดเกาะถนน เลี้ยวยาก-เบรกยาก หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น รถตัดหน้า ถนนลื่น จะเสียหลักได้ง่าย
บรรทุกของหลังกระบะ ให้ปลอดภัย ไม่ผิดกฎหมาย
1. บดบังวิสัยทัศน์ สิ่งของล้นออกทุกทิศทางจนมองไม่เห็นรถที่ตามมาด้านหลัง มองไม่เห็นรถด้านข้าง อันตรายต่อตนเองและเพื่อนร่วมทาง
2. เสี่ยงเกิดยางระเบิด หรือรถเสียหาย เนื่องจากเป็นการบรรทุกเกินกว่าสมรรถนะของยางและระบบช่วงล่าง
3. อายุการใช้งานของยางลดลงอย่างรวดเร็ว ยางสึกหรอเร็ว เพราะการบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราส่งผลให้การเคลื่อนไหวของหน้ายางมีมากขึ้น และยังทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนระหว่างหน้ายางกับโครงยางลดลง
4. รถเสียสมดุล เสียหลักง่าย โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น เพราะรถเสียสมดุลการถ่ายน้ำหนัก ทำให้ตอนหน้ารถเบา จนล้อหน้าขาดแรงยึดเกาะถนน เลี้ยวยาก-เบรกยาก หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น รถตัดหน้า ถนนลื่น จะเสียหลักได้ง่าย
บรรทุกของหลังกระบะ ให้ปลอดภัย ไม่ผิดกฎหมาย
- ความกว้าง ต้องไม่เกินความกว้างของรถ
- ความสูง รถกระบะ บรรทุกให้สูงจากพื้นทางได้ไม่เกิน 3 เมตร กรณีรถที่มีความกว้างเกิน 2.30 เมตร บรรทุกได้สูงไม่เกิน 4 เมตร จากพื้นทาง (*กฎกระทรวง ฉบับที่ 20 พ.ศ. 2550 ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522)
- ความยาว ด้านหน้ายื่นไม่เกินหน้าหม้อรถ ด้านหลังยื่นพ้นตัวรถไม่เกิน 2.5 เมตร ติดธงสีแดงหรือไฟสัญญาณแสงแดง ให้รถคันหลังเห็นได้ชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร
- การป้องกัน ต้องจัดให้มีสิ่งป้องสิ่งของ ไม่ให้ตกหล่นจากรถ หรือปลิวไปจากรถ อาจก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อน เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
รู้หรือไม่? แค่ “น้ำหยดเล็ก ๆ” ซึมเข้ารถ ก็อาจสร้างความเสียหายมากมายโดยไม่รู้ตัว! โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือหลังขับรถลุยน้ำท่วม หลายคนอาจเริ่มสังเกตว่าภายในรถ “ชื้นแฉะ มีกลิ่นอับ” บางครั้งถึงขั้นระบบไฟรวน หรือเครื่องยนต์มีปัญหา ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นเพียงแค่เพราะว่า “น้ำซึมเข้ารถ”
การกำจัดคราบเกลือที่ขึ้นแบตเตอรี่รถยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการใช้น้ำร้อนราดบริเวณคราบขี้เกลือ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง และสุดท้ายทาจาระบีที่ขั้วแบตเตอรี่เพื่อป้องกันการเกิดคราบอีก
การขับรถไม่หลับในนั้นสำคัญมากต่อความปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการหลับใน ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ขับขี่มีอาการง่วงนอนอย่างเฉียบพลันและอาจหลับไปในช่วงสั้นๆ โดยไม่รู้ตัว