พ.ร.บ. ดูความคุ้มครองอย่างไร
พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ประกัน พ.ร.บ. คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เจ้าของรถ ที่มีชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์หรือผู้ครอบครองรถในกรณีเป็นผู้เช่าซื้อรถ และต้องต่ออายุในทุก ๆ ปี นอกจากเป็นประกันภาคบังคับที่ผู้ใช้รถต้องทำอยู่แล้ว พ.ร.บ.รถยนต์ ยังเป็น 1 ในหลักฐานที่จำเป็นต่อการต่อภาษีรถยนต์ในทุก ๆ ปี ในกรณีที่ไม่ทำจะถือว่าทำผิดกฎหมาย
ใจความสำคัญของประกัน พ.ร.บ. ก็คือ ต้องการให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากการใช้รถ โดยไม่สนใจว่าบุคคลนั้นจะเป็นฝ่ายผิด หรือถูก หากเกิดความเสียหายขึ้น ผู้เสียหายก็จะได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้
พ.ร.บ จึงมีความสำคัญกับรถยนต์เป็นอย่างมาก
หลายๆคนอาจจะรูกจักพ.ร.บ แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเหมือนกันที่ยังไม่รู้วิธีดูใบพ.ร.บ เราจะมาสอยวิธีพ.ร.บ รถยนต์กัน
1. เลขกรมธรรม์
คือ เลขเรียงที่แต่ละบริษัทประกันต่างคนต่างตั้งในแบบของตัวเอง เอาไว้ใช้เป็นเลขอ้างอิงของแต่ละกรมธรรม์ เพื่อให้ง่ายต่อการระบุกรมธรรม์ในการเก็บข้อมูล, ค้นหา, และใช้งาน ภายในบริษัท
2. รายละเอียดผู้เอาประกันภัย
คือ คนที่ทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกัน เป็นผู้จ่ายเบี้ยประกัน หรือเป็นผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์
3. ระยะเวลาคุ้มครอง
คือ ระยะเวลาการคุ้มครองของประกันรถจะอยู่ที่ 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อประกันไป เมื่อระยะเวลาใกล้วนมาถึงคุณควรรีบต่อประกันเพื่อให้การคุ้มครองเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยสามารถเช็ควันหมดอายุประกันรถยนต์ได้ที่ Sia insurance broker
4. ข้อมูลของรถที่เอาประกันภัย
รายละเอียดของรถที่เอาประกันภัยเช่น ทะเบียน ยี่ห้อ เลขตัวถังฯ
5. ความคุ้มครอง
คือ ความคุ้มครองคู่กรณีและผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุในรูปแบบของเงินชดเชย และค่าดูแลรักษาพยาบาลตามที่กำหนด
6. เงินค่าเสียหายเบื้องต้น
ค่าเสียหายเบื้องต้น (สามารถเคลมได้ โดยยังไม่ต้องพิสูจน์ความผิด)
7. เบี้ยประกันภัย
คือ ค่าเบี้ยประกันภัย ที่เราต้องชำระ
8. ลักษณะการใช้รถ
ในการทำประกันภัยรถยนต์ จะมีบอกลักษณะการรถยนต์ในตารางกรมธรรม์แตกต่างกันไปตามประเภทของรถยนต์ และลักษณะการใช้งาน
เมื่อทำประกันภัยรถยนต์ อย่าลืมเช็กความถูกต้องของข้อมูลให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดต่าง ๆ ของรถยนต์ รวมถึงรหัส รถยนต์ ในกรมธรรม์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
