แชร์

"รถยนต์ไฮโดรเจน" VS "รถยนต์ไฟฟ้า" รถพลังงานไม่ได้มีแค่รถไฟฟ้านะ

อัพเดทล่าสุด: 20 มี.ค. 2025
264 ผู้เข้าชม
ทำความรู้จักรถยนต์ไฮโดรเจน

รถพลังงานไฮโดรเจน คือ รถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานไฮโดรเจน โดยรถยนต์ประเภทนี้ก็ได้มีการเร่งผลักดันในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์เคลื่อนที่เพื่อเป็นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อช่วงปี 2021 ที่ผ่านมานี้นี่เอง และถือเป็นเทคโนโลยี อนาคตที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก

 

 

รถพลังงานไฮโดรเจนต่างจากรถไฟฟ้าอย่างไร

สำหรับรถไฟฟ้าหรือ  EV นั้นเป็นรถที่ช่วยประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้ระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่จากที่บ้านหรือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง ส่วนรถพลังงานไฮโดรเจน หรือ FCEV นั้นคือรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนที่ถูกเปลี่ยนมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรถยนต์ ไม่ต้องชาร์จแบตนานเพราะใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงเพียง 3-5 นาทีเท่านั้น และยังมีค่าบำรุงรักษาที่น้อยอีกด้วย แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ต้องรอการพัฒนาอีกเยอะ

 

 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง "รถยนต์ไฮโดรเจน" VS "รถยนต์ไฟฟ้า"

 

  • รถยนต์ไฟฟ้า : ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน
  • รถยนต์ไฮโดรเจน :ใช้พลังงานไฮโดรเจนเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน

 

 

  • รถยนต์ไฟฟ้า : ไม่ปล่อยมลพิษและ CO2 ออกจากรถยนต์
  • รถยนต์ไฮโดรเจน :ไม่ปล่อยมลพิษและ CO2 ออกจากรถยนต์แต่จะปล่อยน้ำออกมาเท่านั้น

 

 

  • รถยนต์ไฟฟ้า : เวลาที่ใช้การชาร์จไฟฟ้า : 30 นาที - 12 ชั่วโมง
  • รถยนต์ไฮโดรเจน :เวลาที่ใช้เติมเชื้อเพลิง : 5 นาที

 


  • รถยนต์ไฮโดรเจน : ราคาเชื้อเพลิงมีราคาถูก
  • รถยนต์ไฟฟ้า : ราคาเชื้อเพลิงมีราคาสูง

 

 

  • รถยนต์ไฮโดรเจน : วิ่งได้ไกล 800 - 1,600 กม.
  • รถยนต์ไฟฟ้า : วิ่งได้ไกล 200 - 600 กม.


 

บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมถึงต้องทำประกันรถยนต์
“ทำไมต้องทำประกันรถยนต์” หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลายคนคงสงสัย บางคนอาจจะเห็นว่าไม่เห็นจำเป็นเลย ทำไมต้องมาจ่ายเบี้ยประกันภัยทุกปี ทั้งที่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย เสียดายเงินเปล่าๆ สาเหตุเป็นเพราะหากเมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันรถยนต์จะช่วยแบกรับความเสี่ยงในการเสียค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุให้กับผู้ทำประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ รถหาย รถพัง และทำให้ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ได้รับการชดเชยอย่างทันท่วงที เพื่อที่จะได้นำเงินส่วนนั้นไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล จ่ายค่าซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหาย โดยทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าความเสียหายให้ตามจำนวนทุนประกันที่ซื้อไว้ วันนี้เราจะพาไปดู 3 เหตุผลว่าทำไมคุณต้องทำประกันรถยนต์
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy