6 พฤติกรรม ขับรถแบบไหน ประกันภัยไม่คุ้มครอง?

1.     ขับรถเร็วเกินกำหนด

         ขับรถเร็วมาเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียวที่จะโดยบริษัทประกันปฏิเสธความคุ้มครอง หากตรวจสอบและพบว่ามีการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ หรือหากเกิดอุบัติเหตุจากการเร่งความเร็วบนท้องถนน บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธความคุ้มครอง และความสูญเสียหรือการบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น นั่นหมายความว่า เราจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทั้งหมด รวมถึงเสียค่าใช้จ่ายให้กับคู่กรณีเองอีกด้วย

2.     เมาแล้วขับ

         ไม่ว่าจะเป็นการเมาแล้วขับ หรือใช้ยาเสพติด รวมถึงสิ่งผิดกฎหมาย มีผลต่อกรมธรรม์ประกันภัยที่ไม่สามารถคุ้มครองความเสียหายได้ หากตรวจสอบและพบว่าการขับรถในขณะมึนเมา บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธการจ่ายเงินสำหรับความสูญเสียหรือการบาดเจ็บใด ๆ ได้ ทั้งนี้เพราะการเมาแล้วขับถือเป็นความผิดทางอาญา และประกันภัยไม่ครอบคลุมกิจกรรมทางอาญาอีกด้วย

3.     รถบรรทุกเกินพิกัด

         อีกพฤติกรรมการขับรถยนต์หนึ่งที่อาจทำให้ประกันภัยของเราไม่รับคุ้มครอง คือการนำรถยนต์ไปบรรทุกของหนักเกินที่กำหนดไว้ เพราะการบรรทุกน้ำหนักที่มากเกินไปอาจสร้างแรงกดดันให้กับช่วงล่าง เบรก และยางของรถยนต์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แล้วถ้าหากเราประสบอุบัติเหตุในขณะที่รถบรรทุกเกินพิกัดล่ะก็  บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการจ่ายเงินสำหรับความสูญเสียหรือการบาดเจ็บโดยอ้างว่าอุบัติเหตุเกิดจากความประมาทเลินเล่อ และไม่เคารพกฎหมายที่กำหนดไว้นั่นเอง 

4.     ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่

         การขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้อง นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้กรมธรรม์ประกันภัยไม่คุ้มครองความเสียหายอีกด้วย เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และตรวจสอบพบว่าเราขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตการขับขี่ บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธจ่ายค่าเสียหาย สำหรับการบาดเจ็บใดของทั้งตัวเราและคู่กรณีได้ ทั้งนี้เนื่องจากการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตถือเป็นความผิดทางอาญา ประกันภัยรถยนต์ไม่ดูแลความเสียหายครอบคลุมกิจกรรมทางอาญาอีกด้วย

5.     ตกแต่ง หรือดัดแปลงรถยนต์

         การปรับเปลี่ยนรถยนต์ โดยการตกแต่ง ดัดแปลงรถยนต์โดยไม่ต้องแจ้งให้บริษัทประกันภัยรับทราบอาจทำให้กรมธรรม์ประกันภัยถือเป็นโมฆะได้ เพราะการปรับเปลี่ยนบางอย่างอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ตัวอย่างเช่น การดัดแปลงเครื่องยนต์ภายใน  การดัดแปลงล้อรถยนต์ การยกสูง หรือโหลดต่ำของรถยนต์ หรือการปรับเปลี่ยนสีไฟรถยนต์ รบกวนทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากเราประสบอุบัติเหตุขณะขับรถยนต์ที่ผ่านการดัดแปลง บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการจ่ายเงินสำหรับความเสียหายได้

         ทั้งนี้ การใช้รถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยการดัดแปลง ตกแต่งสำหรับธุรกิจอื่น ๆ โดยไม่เเจ้งให้บริษัทประกันรับทราบเพื่อตรวจสอบเบี้ยประกันกรณีเลือกทำประกันแบบรถยนต์ทั่วไป แต่ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์  ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย เช่น การติดตู้เย็น หรือห้องเย็น การติดตั้งหลังคารถยนต์ เป็นต้น เนื่องจากการใช้รถในเชิงพาณิชย์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และกรมธรรม์ประกันภัยไม่ครอบคลุมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้วย

6.     ขับรถแล้วไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

         การไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถไม่เพียงแต่เป็นอันตรายเท่านั้น หากเราประสบอุบัติเหตุโดยไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยเพราะความประมาท บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการจ่ายเงินสำหรับความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งตัวเราและคู่กรณีได้ ดังนั้นขับขี่อย่างปลอดภัย ควรเริ่มจากตัวเรา หมั่นคาดเข็มขัดนิรภัยให้เป็นนิสัย ลดความเสี่ยงและเพิ่มความอุ่นใจในการขับรถยนต์อีกด้วย






         พฤติกรรมดีงกล่าวจึงเป็นเหตุผลที่ประกันภัยไม่รับคุ้มครอง เพราะส่งผลให้กรมธรรม์ประกันภัยของคุณไม่คุ้มค่าหากมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นขับรถเร็วเกินกำหนด เมาแล้วขับ บรรทุกเกินพิกัด ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ดัดแปลงรถและนำไปใช้งานอย่างผิดวัตถุประสงค์ ตลอดจนกระทั่งไม่คาดเข็มขัดนิรภัย  ดังนั้น เราต้องขับรถระมัดระวัง คำนึงถึงปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎจราจรบนท้องถนนอย่างเคร่งครัด  เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้ตัวเองและผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย ทั้งนี้ การรักษาเครดิตในการขับรถยนต์ยังเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีประวัติการขับขี่ที่ปลอดภัย จะช่วยให้เราได้รับเบี้ยประกันที่ถูกลงและได้รับความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นตามพิจารณาแผนประกันภัยจากบริษัทประกันภัย 

เช็คเบี้ย ประกันภัยรถยนต์

• ง่าย สะดวก รวดเร็ว
• ผ่อน 0%
• มีให้เลือกมากกว่า 20 บริษัทประกันภัยชั้นนำ
• เบี้ยถูกใจ เลือกได้ตามที่คุณต้องการ

สนใจประกันหรือสอบถามเบี้ย ได้ที่ INBOX
สอบถามเพิ่มเติม https://lin.ee/xsvLJIQ
#SIA #siainsurancebroker #broker #ประกัน #เช็คเบี้ยออนไลน์